ประวัติศาสตร์นอกตำรา
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
![]() |
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน |
อีกฝากหนึ่งของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เรียกว่า “วังหลัง”
สถานที่อันโด่งดังที่ใครๆต่างก็รู้จักและแวะมาเยี่ยมเยียมกัรอยู่บ่อยๆ ทั้งในนาม “ตลาดวังหลัง” "โรงพยาบาลศิริราช” และอื่นๆ แต่จะมีใครบ้างที่สามารถบอกที่มาของคำว่า “วังหลัง”
ได้ว่าคำนี้หรือสถานที่นี้มีความสำคัญอย่างไรในทางประวัติศาสตร์และทำไมจึงมาเป็นตลาดหรือโรงพยาบาลแทน และความเป็นรั้วเป็นวังหายไปไหน แน่นอนน้อยคนที่จะตอบได้ เราเลยพาพวกคุณไปรู้จักกับพิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่แอบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณโรงพยาบาลศิริราช
ในนามว่า “พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน” ที่ตอบคำถามดังกล่าวได้เกือบจะครบถ้วน
![]() |
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน |
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ภายใต้โครงการ
“สถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช” คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยใช้พื้นที่อาคารสถานีรถไฟธนบุรี(เดิม)
บริเวณปากคลองบางกอกน้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินจำนวน
33 ไร่ ที่ได้รับมอบจากการรถไฟแห่งประเทศไทย
พื้นที่แห่งนี้มีความสำคัญอันเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยา
ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของเมือง “บางกอก” ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านและเป็นทางผ่านของบรรดาสำเภาที่เดินทางเข้าไปค้าขายกับกรุงศรีอยุธยา
และทวีความสำคัญยิ่งขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี
มีการสร้างกำแพงเมืองและป้อมปราการอย่างแข็งแรง
ครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พื้นที่ด้านใต้ของปากคลองบางกอกน้อย
ลงไปถึงวัดระฆังโฆษิตาราม เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “วังหลัง” ด้วยเคยเป็นที่ประทับของกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขหรือกรมพระราชวังหลัง ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระปฐมกษัตริย์แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นกรมพระราชวังหลังองค์เดียวในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
![]() |
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข |
ที่ดินผืนนี้ถูกปรับเปลี่ยนไปตามเหตุการณ์ต่างๆ กระทั่งถึง พ.ศ. 2443
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯให้ใช้ที่ดินนี้สร้างเป็นสถานีรถไฟบางกอกน้อย ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลศิริราช และต้นทางของเส้นทางรถไฟสายใต้กระทั่งถึงปัจจุบัน
![]() |
คงเหลือแต่ชื่อ "บวรสถานพิมุข" |
เมื่อคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเริ่มโครงการสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช
เพื่อมุ่งสู่ความเป็นสถาบันทางการแพทย์ชั้นเลิศ คณะฯ
เห็นความสำคัญของพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ จึงร่วมกับคณะโบราณคดี
มหาวิทยาลัยศิลปากร ทำการศึกษาทางโบราณคดี ตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม พ.ศ. 2551 พบหลักฐานทางโบราณคดีต่างๆ เช่น
ฐานป้อมบางส่วน ซากเรือไม้ และภาชนะดินเผา คณะฯ
ได้นำความกราบบังคมทูลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีและมีพระราชวินิจฉัย
ให้อนุรักษ์หลักฐานทางโบราณคดีเพื่อจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ต่อไป
นั้นก็คือประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถนำไปบูรณาการและนำไปปรับใช้ร่วมกับวิชาประวัติศาสตร์ได้ทุกระดับชั้น
ภายในเป็นการจัดนิทรรศการแบบการเรียนรู้ที่มุ่งให้ความรู้เป็นหลักและมีความน่าสนใจมากในการจัดรูปแบบที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก
ต่อไปเราจะพาไปชมว่าภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีอะไรบ้าง
ที่แรกคือ อาคารพิพิธภัณฑ์ 1 ประกอบด้วยห้องจัดแสดง คือ
ชั้นที่ 1
ห้องศิริสารประพาส |
1. ศิริสารประพาส : นำเสนอสาระของพิพิธภัณฑ์วีดิทัศน์และสิ่งแสดง
ในห้องจัดบรรยากาศคล้ายห้องสมุด
สัมผัสเก้าอี้นั่งไม้สักทองที่นักศึกษาแพทย์หลายรุ่นเคยใช้นั่งเรียนมาก่อน
ห้องศิริราชขัตติยพิมาน |
2. ศิริราชขัตติยพิมาน : เป็นส่วนจัดแสดงพระบรมสาทิสลักษณ์
พระสาทิสลักษณ์ พระราชดำรัส พระราชเสาวนีย์ และพระดำรัส ในพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่
ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณและพระกรุณาธิคุณต่อโรงพยาบาลศิริราชและการแพทย์ของประเทศไทยมายาวนาน
อนุรักษ์เทเวศร์กิตติประกาศ |
พระศรีเมือง |
ไซ่ฮั่น |
3. สถานพิมุขมงคลเขต : เป็นห้องที่เราสนใจที่สุด
เป็นห้องที่ถ่ายทอดพระราชประวัติกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขที่นำเสนอผ่านภาพจิตรกรรมไทยชื่อ
“อนุรักษ์เทเวศร์กิตติประกาศ” เป็นภาพจิตรกรรมไทยแบบประเพณีพร้อมเสียงบรรยายด้วยทำนองเสนาะมีแสงสีดูน่าตื่นตาตื่นใจไปอีก
และจัดแสดงหุ่นละครพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง
“พระศรีเมือง” และให้ตวามรู้วรรณคดีเรื่อง “ไซ่ฮั่น”
ฐานป้อม |
พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 |
เครื่องถ้วยโบราณ |
4. ฐานป้อม : หลักฐานทางโบราณคดีเพียงชิ้นเดียวอายุยาวนาม
200 กว่าปี ที่ยืนยันถึงตำแหน่งที่ตั้งของ
พระราชวังบวรสถานพิมุข(วังหลัง) ตามตำนานวังเก่าของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชนุภาพโดยการนำเสนอผ่านวิดีทัศน์
และยังมีการจัดแสดงเครื่องถ้วยโบราณที่ขุดพบพร้อมกันด้วยรวมไปถึงยังจัดแสดงแผนที่เมืองธนบุรี
![]() |
ราชศัสตราโบราณ ได้รับมอบจาก ราชสกุล เสนีวงศ์ |
5. โบราณราชศัสตรา : จัดแสดงศาสตราวุธหลากหลายชนิดหลายชาติพันธุ์อันทรงคุณค่า
ที่คณะแพทยศาสตร์ฯ ได้รับมอบจากราชสกุล “เสนีวงศ์” (นามสกุลเราเอง) เป็นราชสกุลสืบเชื้อสายจากกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข
และมีการนำเสนอผ่านวีดิทัศน์ขั้นตอนการบูรณะศาสตราวุธ แต่ห้องนี้ห้ามถ่ายรูป !!!! และมีการนำเสนอพระกรณียกิจด้านราชการศึกสงคราม ในศึกท่าดินแดง พ.ศ. 2329
ซึ่งเป็นสงครามที่กรมพระราชวังบวรสถานพิมุขตามเสด็จไปทำสงครามด้วยผ่านวิดีทัศน์เช่นกัน
ห้องฉายภาพยนต์ 4 มิติ |
6. คมนาคมบรรหาร : จัดแสดงประวัติสถานีรถไฟธนบุรี
ประกอบด้วยห้องฉายภาพยนตร์สี่มิติ มีแจกแว่นประกอบการเข้าชม ดูไปเหมือนเข้าไปร่วมในเหตุการณ์
มโนว่าตัวเองเป็นอังศุมาลินในคู่กรรม
ชั้นที่ 2
ศิริราชบุราณปวัตติ์ |
7. ศิริราชบุราณปวัตติ์ : จัดแสดงเกี่ยวกับกำเนิดโรงพยาบาล
การตั้งโรงเรียนแพทย์แห่งแรกในประเทศไทย และในห้องยังมีการจำลองห้องปฏิบัติการ แสดงอุปกรณ์การสอนที่ใช้ในยุคก่อน
จำลองห้องผ่าตัด (เดินคนเดียวแอบน่ากลัว)
จากไข่มาเป็นตัว กี่เดือนในท้องมารดา |
ฤาษีดัดตน |
ร้าขายยาครั้นอดีต |
8. สยามรัฐเวชศาสตร์ : จัดแสดงให้เห็นถึงความเจ็บป่วยของมนุษย์
ความมหัศจรรย์ของร่างกายมนุษย์ เหตุแห่งโรค
วิธีการเยียวยาความเจ็บป่วย และบทสรุปของการมีสุขภาพดี ในห้องนี้ยังวิดีทัศน์สาธิตการบริหารกายด้วยวิธีก้าวเต้น-ก้าวตา
และท่าฤาษีดัดตน รวมไปถึงยังมีหุ่นขี้ผึ้งจัดในรูปแบบสถานการณ์ต่างๆ ชวนได้บรรยากาศร่วม
ร้านขายของที่ระลึกและร้านกาแฟ |
พอจบอาคาร 1 ดูท่าฤาษีดัดตนเสร็จก็เดินต่อไปที่อาคาร 2
ซึ่งมีร้านกาแฟทรูขาย เราก็ต้องผ่านเพราะจน !!! 555 จึงเดินลงไปชั้นล่างแล้วไปต่อที่
เรือโบราณขนาดใหญ่ |
อาคารพิพิธภัณฑ์
3 ชื่อ “นิวาสศิรินาเวศ” เป็นอาคารที่จัดแสดงบรรยากาศวิถีชีวิตสองฝั่งคลองบางกอกน้อยในอดีต มีชาวบางกอกน้อย ชุมชนใกล้เคียงและข้าราชการมาตั้งถิ่นฐาน
มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม งานศิลป์ ภูมิปัญญา และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันแต่ก็ได้หลอมรวมเป็นวิถีชีวิตของชุมชนบางกอกน้อย
และจัดแสดงสิ่งแสดงสำคัญที่ขุดค้นพบขณะสำรวทางโบราณคดี คือ เรือโบราณขนาดใหญ่ ที่มีความยาวถึง 24 เมตร
สำหรับการเดินทางก็มาได้ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งเราก็ไม่รู้จะฮิบายอย่างไรดีเพราะมันมาได้หลายทิศทางมากแต่อยากให้รู้ว่าถ้าจะมาก็ให้โฟกัสมาที่โรงพยาบาลศิริราชเพราะพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงพยาบาลศิริราช ถ้ามาโรงพยาบาลศิริราชถูกรับรองตั้งถึงพิพิธภัณฑ์แน่อน !!!
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานเปิดให้บริการวันจันทร์, พุธ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 17. 00 น. (หยุดวันอังคารและวันนักขัตฤกษ์) ราคาบัตร สำหรับชาวต่างชาติ 200 บาท, ผู้ใหญ่
( อายุ 18 ปีขึ้นไป ) 80 บาท,
เด็ก (อายุไม่เกิน 18 ปี) 25
บาท แต่ถ้าเด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. เข้าชมฟรี
ป้ายให้ความรู้ |
ตู้วิดีทัศน์ตามจุดต่างๆ |
ในภาพรวมทั้งหมด เราค่อนข้างชอบมีการจัดนิทรรศการที่หลากหลาย ทั้งป้ายให้ความรู้ วีดิทัศน์บรรยายและห้องฉายภาพยนตร์สี่มิติทำให้พิพิธภัณฑ์นี้ดูน่าสนใจกว่าที่อื่นๆ แต่ก็ไม่ค่อยประทับใจตรงที่ไม่ค่อยมีไกด์มาให้ความรู้ บางทีเราอยากจะรู้อะไรที่มากกว่าที่จัดเสนออยู่ก็ถามไถ่ตรงนั้นไม่ได้เลย อีกอย่างวันนี้ก็ทำให้รู้ว่าคนเป็นไกด์ตามพิพิธภัณฑ์ควรมีความรู้มากกว่านี้ ไม่ใช่ถามอะไรที่นอกกรอบออกไปก็ตอบไม่ได้ รู้สึกแย่นิดนึงตอนเดินไปถามไกด์พอชมเสร็จ
![]() |
ภาพจิตรกรรม
กรมพระราชวังหลัง กับพระอัครชายาเจ้าครอกข้างใน หรือ เจ้าครอกทองอยู่ ผู้เชี่ยวชาญในการทำขนมค้างคาว
|
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา |
ขอขอบพระคุณ
- พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ด้านข้อมูล ภาพและประสบการณ์ดีดี
- หนังสือราชสกุลวังหลังและสายสัมพันธ์ จัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี ณ วันจักรี 2539
- หนังสือราชสกุลวังหลังและสายสัมพันธ์ จัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี ณ วันจักรี 2539
- ภาพตึกพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน, ห้องโบราณราชศัตราและภาพจิตรกรรมกรมพระราชวังหลังกับ
พระอัครชายา จาก https://www.facebook.com/siriraj.museum